อยากรู้ต้องลอง !! 5 สเต็ปเบสิก รองพื้นอย่างไรให้เนียนกริ๊บตลอดวัน

  • 11 May 2020
  • 1217
หางาน,สมัครงาน,งาน,อยากรู้ต้องลอง !! 5 สเต็ปเบสิก รองพื้นอย่างไรให้เนียนกริ๊บตลอดวัน

สำหรับสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้า แต่มักเจอกับปัญหารองพื้นไม่เรียบเนียนบ้าง ปกปิดไม่มิดเผยให้เห็นรูขุมขนกว้างชัดเจนบ้าง หรือหน้าลอกเพราะรองพื้นเป็นเหตุบ้าง วันนี้ไทยรัฐออนไลน์มีวิธีจัดการปัญหาเหล่านั้นให้หมดไป ด้วย 5 สเต็ปรองพื้นง่ายๆ ให้สาวๆ เห็นผลลัพธ์ได้ในทันที จนลืมสเต็ปรองพื้นแบบเดิมๆ ที่เคยใช้มาฝากกัน…เชื่อเถอะว่า ไม่เพียงใบหน้าจะเรียบเนียนขึ้น และกลบรูขุมขน-ริ้วรอยต่างๆ แล้ว แต่มันยังติดทนนานตลอดวัน ให้สาวๆ มั่นใจมากขึ้นกว่าที่เคย !!

 

1. เทสต์ 3 เฉดสี รองพื้นบริเวณขากรรไกรล่าง 

สตาร์ตสเต็ปแรกโดยการเลือก 3 เฉดสีรองพื้น ที่ใกล้เคียงกับสีผิวหน้าของคุณมากที่สุด ซึ่งคุณอาจเทสต์ดูความแตกต่างของเฉดสีบริเวณขากรรไกรล่าง หรือบริเวณใต้ท้องแขน (ไล่เรียงสีที่คุณเลือกจากโทนสีเข้มไปโทนสีอ่อน) เนื่องจากมันให้สีใกล้เคียงกับใบหน้าคุณที่สุด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าบริเวณหลังมือที่คุณชอบใช้เทสต์เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม เราอยากให้คุณจริงจังกับการเลือกเฉดสีหน่อย อย่าคิดว่าสีไหนจะเข้ากับใบหน้าคุณก็ได้ เพราะบางทีมันอาจทำให้ใบหน้าคุณลอยตัดกับคอ (สว่างเกินไป) หรือขับผิวให้ใบหน้าดูมืดหมองลง (คล้ำเกินไป)

ขณะเดียวกัน เราก็อยากให้คุณเช็กสภาพผิวหน้าของคุณด้วย อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งง่าย ก็ควรเลือกใช้รองพื้นแบบน้ำ/ลิควิด/ครีม เพื่อเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าไปในตัว อีกทั้งยังให้ความสวยที่เป็นธรรมชาติมากกว่า คุณอาจใช้เวลาลองถูก-ลองผิดในการเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า และสีผิวหน้าควบคู่กัน แต่รับรองว่าคุณจะได้ 3 สีโดนใจที่เข้ากันกับใบหน้าของคุณสุดๆ เลยล่ะ

ป.ล.ในการเลือกซื้อรองพื้น หากคุณซื้อแบบเดิมที่คุณใช้เป็นประจำ ก็ไม่จำเป็นต้องเทสต์สีรองพื้นใหม่ก็ได้ แค่เลือกใช้เบอร์เดิมอย่างที่คุณเคยซื้อ แต่ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนยี่ห้อรองพื้นเมื่อไหร่ อยากลองยี่ห้ออื่นๆ ดูบ้าง คุณควรต้องเทสต์สีรองพื้นก่อนทุกครั้ง เพราะสีรองพื้นแต่ละยี่ห้อ แต่ละเบอร์ ไม่เหมือนกันแน่นอน !

เทสต์ 3 เฉดสีรองพื้น ...

2. เลือกใช้ 2 เฉดสีที่แตกต่าง และผสมรองพื้นเข้ากัน

เมื่อคุณเลือก 3 เฉดสีโดนใจที่ต้องการแล้ว เราอยากให้คุณเอาสีเข้มบนสุด และสีอ่อนล่างสุด มาผสมกันให้เป็นเนื้อเดียวบนหลังมือ สีที่ออกมานั้นจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะบางทีการใช้รองพื้นแค่เฉดเดียวอาจไม่เพียงพอ และหากถามว่าทำไมถึงผสมกันบนหลังมือได้ ก็เพราะมันแค่ผสม 2 เฉดสี ไม่ได้ลองเทสต์สักหน่อยนี่หน่า…อย่างไรก็ดี ในการผสมเฉดสีนั้น คุณอาจผสมในอัตราส่วนเท่ากัน หรือสีใดสีหนึ่งมากกว่ากันก็ได้ อย่างเช่น ใช้เฉดสีที่มีความเข้มข้นมากกว่า กลบใบหน้าที่ถูกแสงแดดกระทบมากที่สุด เพื่อไม่ให้ใบหน้าลอย สว่างเกินไป หรือใช้เฉดสีที่อ่อนมากกว่า เพื่อทำให้ใบหน้าเบาลง

ผสม 2 เฉดสีที่แตกต่าง !


3. ใช้แปรงแต้ม-เกลี่ยรองพื้นให้ทั่ว

เมื่อคุณผสมเฉดสีเข้ากันเป็นเนื้อแล้ว จากนั้นก็ใช้แปรงรองพื้นแต้ม 5 จุดเฉพาะของใบหน้าเพียงเล็กน้อย นั่นคือ บริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง และโหนกแก้มทั้งสองข้าง แล้วค่อยเกลี่ยให้เข้ากันทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากกลางใบหน้าออกไปบริเวณไรผม ข้างแก้ม และใต้สันกราม เพื่อไม่ให้เกิดชั้นสีที่ต่างกัน (หากเกลี่ยทีละจุด มันจะเกลี่ยได้ยากมาก ยิ่งถ้าคุณใช้รองพื้นที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันด้วยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เนื้อรองพื้นแห้งไวกว่าเดิม และดูหนืดๆ เหนียวๆ จนคุณต้องออกแรงเกลี่ยมากกว่าปกติเลยล่ะ)

ในการใช้แปรงเกลี่ยรองพื้นจะช่วยให้กลมกลืน ซึมเข้ากับใบหน้าง่ายดายมากกว่าการใช้มือ และช่วยปกปิดริ้วรอยได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆ พื้นที่ของใบหน้า สำหรับใครที่ใบหน้าค่อนข้างจะเรียบเนียน ไร้รูขุมขนกว้าง ไม่ค่อยมีรอยสิว รอยแดงต่างๆ กวนใจให้เห็น เราแนะว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นในปริมาณที่เยอะหรอก แค่ใช้แบบเบาบาง เกลี่ยเน้นเฉพาะจุดที่คุณต้องการปกปิด แค่นั้นก็เอาอยู่ตลอดวันแล้วล่ะ

แต่ถึงกระนั้น ปริมาณที่จะลงรองพื้น คุณก็ต้องดูด้วยว่าในหนึ่งวันใบหน้าคุณโดนแดดมากเท่าไหร่ด้วย เพื่อที่คุณจะได้แต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่สะท้อนแสงมากจนเกินไปจนดูใบหน้าลอยโอเวอร์ และช่วยลดใบหน้ามันเยิ้มของคุณเวลาโดนแสงแดดกระทบมากๆ (ยิ่งคุณลงรองพื้นหนาเตอะ ใบหน้าคุณก็ยิ่งตอบสนองความมันเยิ้มเท่านั้น) โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากของคุณที่อยากให้ดูสว่าง เนียนสวย และโดดเด่น แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นส่วนที่รับแสงแดดมากที่สุด! คุณเคยเห็นสาวหลายๆ คน ลงรองพื้นแบบจัดเต็ม แล้วมันสะท้อนกลับมาเป็นความมันเหนียวมากกว่าความสวยไหมล่ะ เห็นแล้วมันคงไม่เวิร์กเท่าไหร่นักหรอก ทางที่ดีดูแสงแดดในแต่ละวันที่คุณต้องเจอ และลงรองพื้นให้พอดี-สวยแบบธรรมชาติจะดีกว่านะ

ใช้แปรงเกลี่ยรองพื้นให้ทั่ว เพื่อใบหน้าเนียนสวย กลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติ

อย่าลืม !! ส่วนคาง ... หนึ่งในห้าจุดเฉพาะของใบหน้า

 

4. ใช้มือตบเบาๆ ให้รองพื้นซึมเข้ากันทั่วใบหน้า 


เมื่อคุณใช้แปรงเกลี่ยให้เข้ากันทั่วใบหน้าแล้ว ทีนี้คุณก็ใช้มือตบเบาๆ เพื่อให้เนื้อรองพื้นเข้าซึมสู่ใบหน้ามากขึ้น โดยคุณค่อยๆ ตบไล่จากส่วนล่างขึ้นไปเรื่อยๆ ในจังหวะ และความแรงที่เท่ากัน นอกจากใบหน้าของคุณจะเนียนขึ้น, กลบสิว-ริ้วรอยต่างๆ ได้เป๊ะเว่อร์แล้ว มันยังช่วยยกกระชับใบหน้าของคุณด้วย หากแต่บางครั้งคุณควรตบไล่ขึ้น และตบไล่ลงสลับกันบ้าง เพราะถ้าคุณเอาแต่ตบย้อนขึ้นด้านบนอย่างเดียว นานๆ ไปมันจะทำให้รูขุมขนเปิดขยายกว้าง และเห็นชัดเจนมากขึ้น (มากกว่ากระชับใบหน้า) นะ

 

5. ลงแป้งสุดโปรด เน้นย้ำบริเวณ ที-โซน


และส่งท้ายด้วยสเต็ปการลงแป้ง ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น หรือแป้งตลับก็ตาม (แต่ถ้าจะให้ติดทนนานตลอดวัน ขอแนะให้ใช้แป้งตลับจะดีกว่า) นอกจากคุณจะปล่อยให้รองพื้นเซตตัวเองตามธรรมชาติแล้ว แป้งสุดโปรดของคุณก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีที่สุด ที่ช่วยเซตรองพื้นของคุณให้เข้าที่อย่างรวดเร็ว และทำให้หน้าไม่มันวาวจากรองพื้นมากเกินไป เป็นแมตช์มากขึ้นด้วย … สำหรับใครที่หน้ามันง่าย ให้คุณลงแป้งเน้นตามแนวทีโซน คือ หน้าผาก สันจมูก และคาง โดยเฉพาะจมูกส่วนที่มันเยิ้มจากเหงื่อตลอดวันมากที่สุด แป้งจะทำหน้าที่ควบคุม และซับความมันได้ดีทีเดียวล่ะ

ป.ล. หากเป็นแป้งตลับ คุณควรดูด้วยว่ามันมีรองพื้นผสมอยู่ไหม ? หากมีรองพื้นผสมควบกันอยู่แล้ว คุณก็แค่ใช้แป้งแตะเบาๆ ที่ใบหน้าคุณหน่อยก็พอแล้ว ไม่ต้องกลัวแป้งไม่ติดหน้า จนลงแป้งหนาเยอะเกินไปหรอก เพราะตัวรองพื้นที่คุณใช้ และมีส่วนผสมอยู่ในแป้งนั้น จะช่วยเซตตัวแป้งให้อยู่ทนติดหน้าคุณตลอดวัน ...

ลงได้ทั้งแป้งฝุ่น และแป้งตลับ ... ควบคุมความมันตลอดวัน ><

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top