รับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ยึดริมเจ้าพระยา

  • 11 May 2020
  • 1767
หางาน,สมัครงาน,งาน,รับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ยึดริมเจ้าพระยา

คนไทยเวลาไปเมืองนอกเมื่อมีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวเลียบแม่น้ำใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศต่างๆ มักใฝ่ฝันอยากให้กรุงเทพมหานครมีแลนด์มาร์กสวยๆใหม่ๆ เป็นทางเดินยาวๆ เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีคุ้งน้ำสวยงามมากมายเกิดขึ้นบ้าง ดั่งเช่นที่มี “เอเชีย ทีค เดอะริเวอร์ ฟรอนท์” ขึ้นมาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ตามด้วย “ท่ามหาราช” พื้นที่สุดฮิบของวัยรุ่น นักศึกษา ตลอดจนคนทำงาน และอีก 2 ปีจะมีโครงการยักษ์ “ไอคอน สยาม” เกิดขึ้น ขณะที่ตอนนี้มีอีกหนึ่งโครงการ “ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค” ที่ขอเสนอตัวเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา

นายเฉลียว ปรีกราน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด กล่าวยืนยันว่า จุดที่ตั้งของโครงการยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค เป็นคุ้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา แวดล้อมด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์ ทั้งสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพุทธ) วัดอรุณราชวราราม พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ (วัดโพธิ์) จึงเนรมิตคอมมูนิตี้-มอลล์แห่งใหม่ ขึ้นมาจากโครงสร้างโกดังเก่าให้กลมกลืนกับทัศนียภาพโดยรอบ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์นานร่วม 10 เดือน กว่าจะออกมาเป็นตัวอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ภายในตกแต่งด้วยยุคสมัยแห่งราชธานีของประวัติศาสตร์ไทย

“ที่เหนือกว่าทำเลอื่นๆ ที่นี่เป็นที่เดียวที่มีระเบียงทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาทอดยาวถึง 300 เมตร แนบชิดทิวทัศน์ริมแม่น้ำได้แท้จริง และสามารถเชื่อมต่อกับอาคารอื่นๆในโครงการ ได้แก่ ตลาดยอดพิมาน ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้และผลไม้ กับปากคลองตลาดซึ่งเป็นตลาดผักและผลไม้ จึงกลายเป็นพื้นที่รวมคนร่วมสมัยกับวิถีชีวิตริมน้ำแท้ๆของคนไทย”

เขาเล่าที่มาที่ไปของพื้นที่แห่งนี้อย่างน่าสนใจว่า กว่าจะมาถึง ณ จุดนี้ ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี ใช้เงินลงทุนร่วม 1,500 ล้านบาท เริ่มต้นจากการได้สัมปทานปากคลองตลาดบนพื้นที่ 5 ไร่เศษ เป็นเวลา 30 ปี จากองค์การตลาดของกระทรวงมหาดไทย และซื้อพื้นที่ 9 ไร่ของตลาดยอดพิมาน ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เดิมของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธิสิริโสภา ในวงเงิน 630 ล้านบาท พร้อมๆกับคำมั่นสัญญาว่า ยังคงให้พื้นที่แห่งนี้เป็นตลาดดอกไม้และผลไม้ และคงสิทธิ์ของผู้ค้าขายรายเดิมๆไว้ จึงสามารถบรรลุการเป็นผู้ซื้อรายที่ 11 ที่เจ้าของที่ดินยอมขายให้หลังจากที่มีผู้ยื่นข้อเสนอซื้อมาก่อนหน้านี้ 10 รายแต่ไม่สำเร็จ และพื้นที่ส่วนสุดท้ายเป็นการรวมพื้นที่โกดังริมแม่น้ำอีก 4 ไร่เศษเข้ามาร่วมเป็นโครงการเดียวกัน เพื่อบริหารจัดการ ณ จุดเดียว

นายเฉลียวบอกว่า เขาเริ่มต้นจากการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ภายใน ทางเข้า ทางออก จัดโซนแผงค้าขายของตลาดยอดพิมานและปากคลองตลาด ให้มีความสะดวกและโปร่งโล่งขึ้น ยอมลงทุนซื้อพื้นที่ตึกของเอกชนเพียงแค่ 12 ตร.วา ในราคา 50 ล้านบาท เพื่อขยายทางเข้า-ออก พร้อมๆกับการอนุรักษ์การค้าขายผักและผลไม้ไว้เช่นเดิม โดยทั้งสองตลาดมี 680 แผง เมื่อขายทั้งกลางวันและกลางคืนเท่ากับว่ากว่า 1,000 แผง และด้วยความเป็นตลาดจึงมีความวุ่นวายมาก ต้องจัดโซนค้าขายให้ผู้ค้านำเข่งจำนวนมากมายกลับไปเก็บที่สวนแทนมาเก็บในตลาด พร้อมตัดพ่อค้าคนกลางที่ให้เช่าแผงออกไปให้เหลือแต่ตัวจริง ใครเคยมีพื้นที่ 100 ตร.ม. ได้ลด ให้เหลือ 20-25 ตร.ม.

เมื่อจัดตลาดที่เป็นแผงค้าขายเสร็จ จึงถึงเวลาต้องจัดและเนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำ เขาบอกว่า พื้นที่ริมน้ำที่ติดตลาดยอดพิมานมี 2 โกดัง และติดปากคลองตลาดอีก 2 โกดัง มีพื้นที่จุดหนึ่ง 27 ตร.วา ที่ต้องซื้อด้วยเงินลงทุนเพิ่มอีก 50 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโกดังริมน้ำให้ต่อเนื่องกัน จนในที่สุดจึงได้พื้นที่ตรงนี้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค เฉพาะส่วนนี้ใช้เงินลงทุนไป 800 ล้านบาท เพื่อรีโนเวตพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาหน้ากว้างยาว 300 เมตร ให้มีพื้นที่ใช้งาน 14,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าและร้านอาหาร 8,000 ตารางเมตร และพื้นที่ส่วนกลาง 6,000 ตารางเมตร

“ผมคาดหวังว่าพื้นที่ตรงนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ทั้งของคนไทยและชาวต่างประเทศ ด้วยมุมมองที่เห็นว่าพื้นที่ตรงนี้คือทำเลเพชร เรียกว่ามากยิ่งกว่าทำเลทอง เพราะอีกไม่กี่ปีจะมีสถานีรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินอยู่ห่างจากโครงการไม่เกิน 50 เมตร เป็นสถานีรถใต้ดินสถานีเดียวที่ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่นี้มีความพร้อมจะเป็นฮับท่องเที่ยวทางน้ำ จึงเริ่มทำตลาดกับบริษัทนำเที่ยว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวแวะมารับประทานอาหาร และซื้อของที่ระลึก รวมทั้งมีพื้นที่เหมาะเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขี่จักรยานเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศรอบเกาะรัตนโกสินทร์”

นอกจากนี้ ปลายปี 2558 เพื่อแนะนำโครงการยอดพิมานให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติได้รู้จัก จึงจะจัดอีเวนต์ใหญ่ เทศกาลดอกไม้ โดยดึงร้านขายดอกไม้ในปากคลองตลาดมาจัดซุ้มดอกไม้นานาชนิดตลอดทางเดินริมน้ำเจ้าพระยา 300 เมตร พร้อมซื้อขายและประกวดการจัดดอกไม้ เพื่อเรียกความคึกคักให้นักท่องเที่ยวได้มาจับจ่าย หนุนจุดเด่นของปากคลองตลาดซึ่งเป็นตลาดซื้อขายดอกไม้ 24 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสวิถีชีวิตที่ไม่ได้ปรุงแต่งเหมือนตลาดอื่นๆ และได้ประสานให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาบรรจุเทศกาลดอกไม้ไว้ในปฏิทินของภาคการท่องเที่ยวไทย ด้วยเพราะตั้งใจให้เป็นเทศกาลที่จะเกิดขึ้นในวันเดียวกันของทุกๆปี.

 

ขอบคุณ :   ไทยรัฐออนไลน์

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top