ขึ้นค่ารถเมล์1บาท กระอักมีผล10ก.พ.

  • 11 May 2020
  • 956
หางาน,สมัครงาน,งาน,ขึ้นค่ารถเมล์1บาท กระอักมีผล10ก.พ.

รถร่วมโวย ให้ปรับ3บ. ขู่จะหยุดวิ่ง ส่วนแท็กซี่ขอขยับ13%

คนกรุงต้องทำใจ คมนาคมให้ขึ้นค่ารถเมล์แล้ว 1 บาท มีผล 10 ก.พ.นี้ แต่ผู้ประกอบการรถร่วมไม่เห็นด้วย ขีดเส้นขอขึ้น 3 บาท ใน 1 สัปดาห์ อ้างสะท้อนต้นทุนเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น ยันสัปดาห์หน้าไม่ได้คำตอบ จะทยอยหยุดวิ่ง อ้างไม่มีเงินเติมแก๊ส ด้านแท็กซี่ร่วมซ้ำ ขู่หากไม่ให้ขึ้นค่าโดยสารรอบ 2 ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ อาจเห็นปฏิเสธผู้โดยสารเพิ่ม ขณะที่ รมว.คมนาคมแบะท่าให้รถเมล์ปรับราคา เหตุไม่ได้ขึ้นมานานจริง แต่ขอดูข้อมูลก่อน โดยเร่งพิจารณาให้ทัน 10 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกันน้ำมันก็ปรับขึ้นอีก 50 สต./ลิตร

คนกรุงเทพฯเตรียมควักกระเป๋าจ่ายค่าโดยสารรถประจำทางเพิ่ม โดยเมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 3 ก.พ. นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการ รถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก.เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการปรับค่าโดยสารของรถโดยสารประจำทางธรรมดา 3 บาท จาก 8 บาท เป็น 11 บาท และรถโดยสารปรับอากาศอีกระยะละ 3 บาท ภายใน 1 สัปดาห์ โดยมีนายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นตัวแทนในการรับมอบ ในเวลาเดียวกัน นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร ก็ได้มายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้พิจารณาขึ้นค่าโดยสารรอบสองเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ และให้ขายแก๊สในราคาเท่าเดิม

นายพงษ์ไชยกล่าวหลังรับมอบหนังสือว่า เบื้องต้นคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้เห็นชอบให้ผู้ประกอบการรถร่วมปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว 1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.นี้ แต่หากผู้ประกอบการต้องการให้ทบทวนใหม่ กระทรวงคมนาคมพร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาทบทวนมติเดิม เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนแก๊สเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น และเป็นไปได้ว่าอาจอนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสารเกิน 1 บาท เนื่องจากการประชุมก่อนหน้านี้เป็นการพิจารณาก่อนที่กระทรวงพลังงานจะปรับขึ้นเอ็นจีวี

นายพงษ์ไชยกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ประกอบการหยุดเดินรถเพราะประชาชนจะเดือดร้อน แต่จะหาข้อสรุปทันใน 1 สัปดาห์ตามที่เรียกร้องหรือไม่ ต้องขอหารือก่อน แต่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมอยากให้รอราคาพลังงานนิ่งก่อน และค่อยมาพิจารณารอบเดียว เพราะ ทราบว่ากระทรวงพลังงานอาจขึ้นเอ็นจีวีไปเรื่อยๆ จนถึง กก.ละ 15 บาท แต่หากผู้ประกอบการรอไม่ได้ อาจพิจารณาให้เร็วที่สุด และอาจใช้วิธีทยอยปรับขึ้นเป็น 2 รอบ ตามราคาพลังงานที่เปลี่ยนแปลง

ด้านนางภัทรวดีกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาขึ้นค่าโดยสาร 3 บาทให้ทันภายใน 1 สัปดาห์ หรือก่อนวันที่ 10 ก.พ.นี้ ไม่เช่นนั้นอาจเห็นผู้ประกอบการรถร่วม 2,500 คันทยอยหยุดวิ่งให้บริการ แต่ไม่ใช่หยุดเพราะเป็นการประท้วง แต่มาจากการไม่มีเงินเติมแก๊ส และต้องขออภัยประชาชนด้วยหากต้องทำให้เดือดร้อน ส่วนหากรัฐบาลจะให้ขึ้นค่าโดยสารก่อน 1 บาท ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ผู้ประกอบการก็ไม่พอใจกับแนวทางนี้ และรัฐต้องชี้แจงเหตุผลให้รับทราบได้ เพราะหากขึ้นไปแล้วจะให้ขึ้นอีกรอบ จะอธิบายสังคมได้ลำบาก และผู้ประกอบการรถร่วมจะดูเหมือนเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชนผู้ใช้บริการทันที

“ที่มาเรียกร้องเพราะผู้ประกอบการทนไม่ไหว จริงๆที่ต้องทนรับสภาพการขาดทุนมานานตั้งแต่ปี 51 โดยรัฐบาลไม่เคยเหลียวแลเพียงแต่บอกให้ช่วยตัวเองไปก่อน ผิดกับผู้ประกอบการแท็กซี่ที่โชคดีได้ขึ้นราคาไปแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าเมื่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาให้รถเมล์ขึ้นค่าโดยสารไปแล้ว 1 บาท แต่ทำไมถึงไม่บอกให้ประชาชน รับทราบ และผู้ประกอบการก็มีการพิมพ์ตั๋วรอแล้ว ด้วย แต่ก็ยอมรับว่าราคานี้ไม่ได้สะท้อนต้นทุนจริง เพราะเป็นการนำผลจากปี 55 มาใช้ ซึ่งราคาเอ็นจีวียังถูกอยู่” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางกล่าว

ด้านนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 2 ครั้งหลังรวม 1.50 บาทของกระทรวงพลังงาน ส่งผลกระทบทำให้รายจ่ายผู้ขับขี่แท็กซี่เพิ่มขึ้นวันละ 100 บาท ทำให้ต้องวิ่งแบบขาดทุนมาตลอด และยังถือว่าเป็นนโยบายที่ขัดแย้งกันเองของหน่วยงานในรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ให้กับแท็กซี่ โดยอนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสาร 13 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร และปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการให้กับประชาชน แต่กระทรวงพลังงานกลับใช้มาตรการเพิ่มรายจ่ายให้แท็กซี่

ทั้งนี้ ระหว่างที่แท็กซี่รอการปรับขึ้นราคาระยะที่ 2 ในเดือน เม.ย.2558 กระทรวงพลังงานก็ได้ปรับ ราคาก๊าซเอ็นจีวีขึ้นไปอีก ดังนั้น แท็กซี่จะขอให้กระทรวงคมนาคมปรับเพิ่มเพดานการขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 2 จาก 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 13 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง และขอให้ประสานกระทรวงพลังงานให้ระงับการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีในครั้งต่อไป รวมทั้งหามาตรการเยียวยาจากการปรับขึ้นเอ็นจีวี 2 ครั้ง หลังที่ผ่านมาด้วยการเพิ่มวงเงินชดเชยจาก กก.ละ 3 บาท เป็น 4.50 บาท เพื่อให้ครอบคลุมกับราคาพลังงาน ที่เพิ่มขึ้นรวม กก.ละ 1.50 บาท

“หากรัฐบาลไม่อนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นราคาระยะที่ 2 อีก 13 เปอร์เซ็นต์ ตามที่เราขอ หรือไม่มีมาตรการอุดหนุนราคา เราเชื่อว่าปัญหาเดิมๆในการใช้บริการแท็กซี่ของประชาชนทั่วไปจะต้องกลับมาอีก อย่างแน่นอน เช่น การปฏิเสธผู้โดยสาร การให้บริการที่ต่ำกว่ามาตรฐาน สภาพรถที่ให้บริการเก่า เราจะให้เวลากระทรวงคมนาคมพิจารณาสักระยะ หากพ้นระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วยังไม่ได้คำตอบ ผมจะเรียกสมาชิกในเครือข่ายประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป” ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯกล่าว

ต่อมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะให้มีการปรับราคารถร่วม ขสมก. เพราะไม่ได้มีการปรับมานาน 6-7 ปี แต่จะให้ปรับเท่าไรขอดูข้อมูลประกอบก่อน โดยจะเร่งพิจารณาให้ทันภายในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลาหากจะประกาศให้ปรับราคาอาจเป็นช่วงวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็ยังได้ แต่ขอดูข้อมูลทั้งหมดให้รอบด้านก่อน พร้อมกับขอร้องอย่าเพิ่งหยุดเดินรถเพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ เรื่องนี้กระทรวงพร้อมจะพิจารณาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ลงนามอนุมัติให้มีการปรับราคาค่าโดยสารรถเมล์ร่วมบริการ สำหรับรถร้อนและรถปรับอากาศเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท ซึ่งมีผลวันที่ 10 ก.พ.นี้ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในเดือน ธ.ค.57 และเดือน ม.ค.58 นั้น เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จึงให้มีการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมผลกระทบจากราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ปรับเพิ่มขึ้นเพื่อประกอบการพิจารณา

นอกจากนี้ วันเดียวกัน ปตท.และบางจากแจ้งประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 4 ก.พ.2558 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 27.40 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 26.08 บาท/ลิตร ขณะที่อี 85 ลดลง 30 สตางค์/ลิตร อยู่ที่ 21.98 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาเบนซิน 95 คงเดิมอยู่ที่ 33.96 บาท/ลิตร เช่นเดียวกับดีเซลคงเดิมอยู่ที่ 25.09 บาท/ลิตร

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top