วันที่ฉันมีนัดสัมภาษณ์งานแต่ฝนดันตก

  • 11 May 2020
  • 1846
หางาน,สมัครงาน,งาน,วันที่ฉันมีนัดสัมภาษณ์งานแต่ฝนดันตก

ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่ฉันชอบมากที่สุดเพราะเป็นการเริ่มต้นเดือนที่มาพร้อมลมหนาว หน้าที่ของมันคือทำให้ตัวเราไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีกลิ่นตัว รู้สึกเย็นสบายตลอดทั้งวัน และทำให้เราเริ่มรู้สึกเหงา อยากหาใครมากอดสักคน (ประโยคหลังไม่น่าเกี่ยว)

 

แต่ก่อนหน้านั้น ฉันได้ผ่านช่วงเวลาที่น่ารำคาญที่สุดของชีวิต ฉันเป็นนักศึกษาจบใหม่ เพื่อนๆ ของฉันได้เกียรตินิยม ส่วนฉันเป็นบุคคลเกรดนิยมที่จะยื่นสมัครงานที่ไหนคงไม่มีใครรับเข้าทำงานเพราะเกรดน้อย ฉันเที่ยวยื่นใบสมัครไปทั่วทุกที่ ฉันเปิดโอกาสให้กับทุกงาน เพียงแต่งานนั้นจะเปิดโอกาสให้ฉันบ้างหรือเปล่า ฉันไม่รู้ แต่ฉันมีความหวัง

 

เป็นเวลานานกว่า 2 เดือนที่ฉันเดินทางไปสมัครงานทุกที่ ฉันคิดว่าการเดินทางครั้งนี้คงไม่สิ้นสุด เพราะคงไม่มีใครรับฉันเข้าทำงาน จนวันที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จอมือถือขึ้นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ฉันรีบกดรับสายและตั้งใจฟังว่าบุคคลในนั้นกำลังพูดอะไร ฉันถูกเรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน ฉันดีใจสุดขีด เตรียมเอกสาร จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตั้งนาฬิกาปลุกหลายครั้งเพื่อป้องกันอาการขี้เซาที่จะทำให้ฉันไม่ตื่น พร้อมกับคิดว่าฉันจะไม่ทำให้โอกาสนี้สูญเสียไปอย่างแน่นอน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น นาฬิกาปลุกหลายครั้งกว่าฉันจะตื่น ฉันตื่นสายกว่าปกติ คงเป็นอาการง่วงจากเมื่อคืนที่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ก่อนออกจากห้อง ฉันส่องกระจกเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ฉันรีบร้อนจนลืมเสื้อกันฝน ฉันขี่รถจักรยานยนต์และตรงดิ่งไปย่านสุขุมวิทเพื่อไปบริษัทแห่งหนึ่งที่เรียกฉันสัมภาษณ์งาน

 

สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเหมือนธรรมชาติกลั่นแกล้ง หยาดฝนตกลงมา ฉันรีบเข้าไปหลบใต้ชายคาของตึกแห่งหนึ่งจนกระทั่งฝนหยุด แต่เวลาไม่เคยคอยใคร ใกล้ถึงเวลาสัมภาษณ์งานแล้ว ฉันตัดสินใจเดินทางต่อเพราะไม่อย่างนั้น ฉันอาจจะพลาดโอกาสนี้ไป เสื้อผ้าฉันเปียก อารมณ์ของฉันเริ่มไม่เย็นเหมือนบรรยากาศรอบตัว ฉันเริ่มโมโห บีบแตรไล่รถคันข้างหน้า เพราะฉันรู้อย่างเดียวว่าต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้ไปถึงที่สัมภาษณ์งานให้ทันเวลา

 

ฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือบนถนนเส้นเดิมที่ไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อน ฉันไปไม่ทัน เลยเวลาที่นัดหมายไปเสียแล้ว ฉันโมโหตัวเองที่ไม่เตรียมความพร้อม โทษฝนที่ทำให้รถติด ผลที่ได้ก็คือพลาดโอกาสไป มันสมควรแล้วล่ะ ฉันยืนโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบรอบกลางสายฝน ความคิดเริ่มทำร้ายตัวฉันจนฉันรู้สึกแย่ลง

 

ทันใดนั้นมีบางอย่างแทรกเข้ามาในหัว ฉันเคยได้ยินมาว่า 'ทำไมเราไม่มองประโยชน์ที่แท้จริงของสิ่งเหล่านั้นล่ะ ทุกสิ่งล้วนมีคุณค่าในตัวมัน' ฉันพูดกับตัวเองต่อว่าฝนไม่ได้ผิด ฝนไม่ได้แย่ ฝนไม่ได้ทำให้รถติด มองคุณค่ามันสิ ฝนนี่แหละให้ความเย็นแก่เรา ตอนนี้เราก็ไม่ร้อนเลยทั้งๆ ที่อยู่กลางแจ้ง ฉันรู้สึกดีขึ้นอย่างทันที ถ้าเราเลือกมองแต่สิ่งดี ๆ ตัวเราเองก็จะมีความสุข ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่โหดร้ายก็ตาม ฉันทำใจให้สบายและขี่รถจักรยานยนต์ไปที่สัมภาษณ์งานต่อ

 

เวลาประมาณ 10.30 น. ฉันถึงที่สัมภาษณ์งานซึ่งเลยเวลามานาน เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ฉันอธิบายว่าทำไมฉันมาช้าให้คนสัมภาษณ์ฟัง เขาเข้าใจและให้โอกาสฉันสัมภาษณ์งาน ฉันดีใจจนกระโดดโลดเต้น การสัมภาษณ์ดูเป็นกันเอง

 

เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ พี่เขาบอกกับฉันว่า “โชคดีนะน้อง หวังว่าจะได้ทำงานด้วยกัน”

สุดท้ายฉันก็ได้ทำงานที่นั่น ฉันดีใจมาก ฉันทำงานแล้วมีความสุขดี แม้ว่าฉันจะทำงานไม่เก่งเท่ากับคนอื่น ฉันก็ยังคิดบวกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ประสบการณ์วันนั้นทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดให้พยายามคิดบวกเสมอ คนเราจะทุกข์ก็ทุกข์ด้วยความคิดตัวเราเอง และฉันก็ได้ทราบว่าความสุขก็สร้างได้จากมุมมองที่ดีซึ่งเริ่มจากตัวเราเอง

 

ขอบคุณวันนั้นที่ฝนพรำ

CR:adaymagazine.com

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top