
ผู้สมัครงาน
ในสมรภูมิออฟฟิศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของ "คน" บางครั้งการเผชิญหน้าโดยตรงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจพลังของ "ความเงียบ" ในเชิงจิตวิทยา เพื่อใช้รับมือกับปัญหาที่มาจากเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือลูกน้อง อย่างชาญฉลาดและ "ตีเนียน"
ความเงียบไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้หรือหลีกเลี่ยงปัญหาเสมอไป ในทางจิตวิทยา อ้างอิงจากหนังสือ จิตวิทยาตีเนียน (เพื่อจัดการคนน่ารำคาญ) จาก สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How to ได้บอกว่าความเงียบสามารถเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบของเราได้ ดังนี้:
สร้างพื้นที่ให้ตัวเองได้คิดทบทวน: เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดหรือพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การตอบโต้ทันทีด้วยอารมณ์อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลาย การเลือกที่จะ "เงียบ" สักครู่ จะช่วยให้เรามีเวลาตั้งสติ ประมวลผลข้อมูล และคิดหาแนวทางรับมือที่เหมาะสมที่สุด
สื่อสารโดยไม่ต้องพูด: ความเงียบสามารถสื่อสารได้หลายอย่าง เช่น ความไม่เห็นด้วย ความไม่พอใจ หรือความต้องการพื้นที่ส่วนตัว บางครั้งการไม่ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่
ไม่เหมาะสม อาจเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนกว่าคำพูดเสียอีก ว่าเราจะไม่เล่นตามเกมของเขา
รักษาพลังงานและลดความขัดแย้ง: การโต้เถียงหรือพยายามเอาชนะกับ "คน"
บางประเภท อาจเป็นการสูบพลังงานโดยใช่เหตุ การเลือกที่จะ "เงียบ" และถอยออกมา จะช่วยรักษาพลังงานทางอารมณ์ของเรา และหลีกเลี่ยงการเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
สังเกตการณ์และรวบรวมข้อมูล: ความเงียบช่วยให้เรามีโอกาสสังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่ายอย่างละเอียด โดยไม่มีอคติจากอารมณ์ของเรา ทำให้เราเข้าใจแรงจูงใจและรูปแบบ
การกระทำของเขาได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนรับมือในระยะยาว
ปกป้องขอบเขตส่วนตัว: ในสถานการณ์ที่ถูกรุกล้ำหรือถูกกดดัน การ "เงียบ" และไม่ตอบสนองต่อคำถามหรือข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล เป็นการแสดงออกถึงการรักษาสิทธิและขอบเขตส่วนตัวของเรา
"The Paused Response": เมื่อถูกกระตุ้น อย่าตอบโต้ทันที เว้นช่วงสักครู่ (2-3 วินาที) ก่อนที่จะพูดหรือแสดงท่าทีใดๆ การหยุดนี้จะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์และเลือกคำพูดที่เหมาะสม
"The Neutral Silence": ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการให้ความเห็นหรือเข้าไปมีส่วนร่วม การคงไว้ซึ่งสีหน้าและท่าทางที่เป็นกลาง พร้อมกับความเงียบ จะช่วยลดการถูกดึงเข้าไปในปัญหา
"The Observational Silence": เมื่อมีสถานการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้น
ลองเป็นผู้สังเกตการณ์เงียบๆ รวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจพลวัตของสถานการณ์
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเข้าไปแทรกแซงหรือไม่
"The Boundary Silence": เมื่อถูกถามคำถามที่ไม่ต้องการตอบ หรือถูกกดดันในเรื่องส่วนตัว การตอบด้วยความเงียบ หรือการเปลี่ยนเรื่องอย่างนุ่มนวล เป็นการรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
"The Strategic Withdrawal": หากสถานการณ์เริ่มตึงเครียดและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น การเลือกที่จะ "เงียบ" และถอยออกจากสถานการณ์นั้น อาจเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุด
แม้ว่าความเงียบจะมีประโยชน์ แต่การใช้อย่างไม่เหมาะสมก็อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ควรพิจารณาบริบทของสถานการณ์ ความสัมพันธ์กับบุคคลนั้น และเป้าหมายของการสื่อสารของเราเสมอ บางครั้งการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนก็ยังคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ดังนั้น "จิตวิทยาตีเนียน" ด้วยการใช้ "ความเงียบ" อย่างมีสติ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับปัญหาที่มาจาก "คน" ในที่ทำงาน การเรียนรู้ที่จะใช้ความเงียบให้เป็น จะช่วยให้คุณรักษาความสงบภายใน ปกป้องพลังงาน และนำทางสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อสร้างสมดุลและความสุขในการทำงานของคุณดูนะ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved