การสอบวุฒิวิชาชีพบัญชี (CPA/CPD) ก้าวสำคัญสู่ความก้าวหน้าในสายอาชีพ

  • 23 พ.ย. 2568
  • 26
หางาน,สมัครงาน,งาน,การสอบวุฒิวิชาชีพบัญชี (CPA/CPD) ก้าวสำคัญสู่ความก้าวหน้าในสายอาชีพ

 

 

ในโลกวิชาชีพบัญชี วุฒิ CPA (Certified Public Accountant) และการสะสมชั่วโมง CPD (Continuing Professional Development) ไม่ใช่เพียงแค่ “ใบประกาศ” หรือ “ชั่วโมงอบรม” แต่เป็นเหมือน ประตูบานใหญ่ ที่จะนำไปสู่ตำแหน่งงานใหม่ โอกาสทางอาชีพ และรายได้ที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน
 

1. ตัวอย่างเส้นทางการเติบโตเมื่อมี CPA

ลองเปรียบเทียบเส้นทางอาชีพของนักบัญชี 2 คน ที่เริ่มต้นจาก เจ้าหน้าที่บัญชี (Junior Accountant) ในบริษัทเอกชน

  • กรณีที่ 1: ไม่มี CPA

    • ทำงานไปเรื่อยๆ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Senior Accountant

    • จำกัดอยู่กับงานบันทึกบัญชี ปิดงบภายใน และงานภาษีประจำเดือน

    • เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจหยุดอยู่ที่ตำแหน่งหัวหน้าทีม หรือ Supervisor

    • เงินเดือนเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 25,000–50,000 บาท/เดือน ขึ้นกับประสบการณ์และขนาดบริษัท
       

  • กรณีที่ 2: มี CPA

    • เริ่มทำงานเหมือนกัน แต่เมื่อสอบผ่าน CPA จะมีสิทธิ์เซ็นรับรองงบการเงินได้

    • สามารถย้ายไปทำงานในบริษัทตรวจสอบบัญชี (Audit Firm) หรือก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีในองค์กร

    • มีโอกาสขยับขึ้นเป็น Finance Manager, Internal Audit Manager, หรือแม้แต่ CFO ได้เร็วกว่า

    • เงินเดือนเริ่มต้นหลังได้ CPA ในสาย Audit Firm อยู่ที่ 50,000–80,000 บาท/เดือน และในสายผู้บริหารองค์กรใหญ่สามารถสูงกว่า 100,000–300,000 บาท/เดือน
       

สรุป: CPA คือ “ใบเบิกทาง” ที่เปลี่ยนเส้นเพดานรายได้และตำแหน่งงานอย่างชัดเจน

 


 

2. ตัวอย่างการใช้ CPA/CPD ในสายงานย่อย

  1. งานตรวจสอบบัญชี (Audit)

    • ใบ CPA คือเงื่อนไขบังคับของการเป็นผู้สอบบัญชี

    • บริษัทตรวจสอบบัญชี Big 4 (PwC, EY, KPMG, Deloitte) จะเลื่อนตำแหน่งเป็น “Audit Manager” ได้ก็ต่อเมื่อคุณมี CPA

    • รายได้: Audit Senior (ไม่มี CPA) ประมาณ 35,000–50,000 บาท/เดือน แต่ Audit Manager (มี CPA) กระโดดไปที่ 70,000–120,000 บาท/เดือน
       

  2. งานบัญชีภายในบริษัท (Corporate Accounting/Finance)

    • นักบัญชีที่มี CPA ได้เปรียบมาก เพราะองค์กรต้องการคนที่เข้าใจกฎหมายและมาตรฐานบัญชีเชิงลึก

    • ตำแหน่งที่ไปต่อได้: Accounting Manager, Financial Controller, CFO

    • รายได้: Senior Accountant (ไม่มี CPA) ประมาณ 30,000–45,000 บาท/เดือน แต่ Accounting Manager (มี CPA) เริ่มที่ 70,000–150,000 บาท/เดือน
       

  3. งานที่ปรึกษาและภาษี (Consulting/Tax)

    • CPA ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้สามารถเปิดสำนักงานตรวจสอบบัญชีหรือภาษีเป็นของตัวเองได้

    • รายได้ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า บางคนมีรายได้เกิน หลักล้านบาทต่อปี หากบริหารสำนักงานได้ดี
       

 

3. บทบาทของ CPD ต่อการต่อยอดอาชีพ

หลายคนคิดว่า “ได้ CPA แล้วก็จบ” แต่ความจริง CPD เป็นสิ่งที่ทำให้คุณ ไม่หยุดอยู่กับที่

  • ยกตัวอย่าง:

    • ปี 2023 มีการปรับมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับ การรับรู้รายได้ (Revenue Recognition: TFRS 15) และ สัญญาเช่า (TFRS 16)

    • นักบัญชีที่ไม่เข้าอบรม CPD อาจปิดงบการเงินผิดพลาด เสี่ยงต่อการตรวจสอบจากกรมสรรพากร

    • แต่ผู้ที่อัปเดตความรู้ผ่าน CPD สามารถให้คำปรึกษาแก่บริษัทได้ ทำให้ตำแหน่งในองค์กรมั่นคงขึ้น และยังใช้เป็น “แต้มต่อ” ในการเจรจาค่าตอบแทน
       

4. เปรียบเทียบผลประโยชน์ระหว่าง “มี CPA” กับ “ไม่มี CPA”

  1. ตำแหน่งงานสูงสุดที่ไปถึงได้ง่ายที่สุด

    • หากไม่มี CPA เส้นทางการเติบโตในองค์กรส่วนใหญ่จะหยุดอยู่ที่ระดับ Supervisor หรือ Senior Accountant ซึ่งแม้จะเป็นตำแหน่งที่มีประสบการณ์ แต่ก็ยังถูกจำกัดให้อยู่ในงานปฏิบัติและงานภายในองค์กร

    • ในทางกลับกัน หากมี CPA และเก็บชั่วโมง CPD อย่างต่อเนื่อง จะสามารถก้าวไปสู่ตำแหน่ง Audit Manager, Accounting Manager, Financial Controller หรือแม้กระทั่ง CFO ได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังสามารถก้าวไปถึงการเป็น Partner ในบริษัทตรวจสอบบัญชีได้
       

  2. เงินเดือนและผลตอบแทน

    • นักบัญชีที่ไม่มี CPA โดยเฉลี่ยเมื่อทำงานมา 5–10 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 35,000–60,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดองค์กรและอุตสาหกรรม

    • นักบัญชีที่มี CPA โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในสายตรวจสอบบัญชีหรือสายการเงินในองค์กรใหญ่ รายได้เฉลี่ยจะเริ่มตั้งแต่ 80,000–200,000 บาทต่อเดือน และถ้าเลื่อนถึงตำแหน่งบริหารระดับสูง เช่น CFO หรือ Partner ของ Big 4 รายได้อาจแตะ หลักแสนถึงหลักล้านบาทต่อเดือน ได้
       

  3. ความน่าเชื่อถือในวิชาชีพ

    • หากไม่มี CPA คุณจะถูกมองว่าเป็นเพียง “ผู้ปฏิบัติ” ที่ทำงานตามหน้าที่ เช่น ปิดงบ ทำบัญชีภาษีรายเดือน แต่ไม่มีอำนาจหรือสิทธิ์ทางกฎหมายในการรับรองงบการเงิน

    • การมี CPA ทำให้คุณถูกยอมรับว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานระดับประเทศ และมีคุณสมบัติในการเซ็นรับรองงบการเงินตามกฎหมาย
       

  4. โอกาสประกอบธุรกิจส่วนตัว

    • นักบัญชีที่ไม่มี CPA มักถูกจำกัดให้ทำงานด้านบริการรับทำบัญชีทั่วไป (Bookkeeping Service) หรือเป็นที่ปรึกษาด้านเอกสาร

    • แต่ผู้ที่มี CPA สามารถเปิด สำนักงานสอบบัญชี ของตนเองได้ ซึ่งถูกกฎหมายรองรับ สามารถรับงานตรวจสอบบัญชีและเซ็นงบการเงินให้กับบริษัทได้โดยตรง
       

  5. ความมั่นคงในสายอาชีพระยะยาว

    • นักบัญชีทั่วไปที่ไม่มี CPA มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติหรือซอฟต์แวร์บัญชีในอนาคต เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานบันทึกข้อมูลที่ไม่ซับซ้อน

    • แต่สำหรับผู้ที่มี CPA และพัฒนาต่อเนื่องด้วย CPD กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าการตรวจสอบงบการเงินและการลงนามรับรองจะต้องทำโดยผู้ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ทำให้มีความมั่นคงทางอาชีพสูงกว่าและยากที่จะถูกแทนที่

 

ตำแหน่งงาน ที่กำลังเปิดรับสมัคร
สมัครงานสายงานบัญชีทั้งหมด

สมัครงานสายงานการเงิน

บทความอื่นๆ เกี่ยวกับงานสายบัญชี
อยากเป็น Auditor ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
แนะนำการเขียน Resume สำหรับสายงานบัญชี

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top