เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน เศรษฐีที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ ก็ต้องมีจุดเริ่มต้นที่ไหนสักแห่ง แต่จากคนปกติธรรมดาและกลายมาเป็นเศรษฐีได้นั้น แต่ละคนจะมีพฤติกรรมหรือนิสัยอะไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ เรื่องนี้ โทมัส ซี. คอร์ลีย์ ได้ใช้เวลา 5 ปี เพื่อศึกษานิสัยของเศรษฐีสร้างตัวเอง 177 คน ว่าทำยังไงถึงประสบความสำเร็จ
"จากงานวิจัย ผมค้นพบว่านิสัยในชีวิตประจำวันสามารถบ่งบอกได้ว่าคุณจะสามารถประสบความเร็จหรือไม่ อย่างไร" เขาเขียนลงในหนังสือ Change Youe Habits, Change Your Life. ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2016
"นี่คือเหตุและผลที่เกี่ยวข้องกับอุปนิสัย ซึ่งนิสัยของเรานั่นเองที่จะส่งผลให้เรารวย, จน, มีความสุข, เศร้า, เครียด, มีความสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่ดี รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพด้วย ซึ่งข่าวดีคือนิสัยทั้งหมดเหล่านี้สามารถเปลี่ยนได้" โทมัสระบุ
และนี่คือ "นิสัยคนรวย" ของเศรษฐีสร้างตัวเอง ที่คุณเองก็สามารถเริ่มทำได้ มาดูกัน
1.อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ
โทมัสระบุว่า 88% ของคนรวยจะใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีในแต่ละวันในการอ่านหนังสือหาความรู้ด้วยตัวเอง หรือเพื่อพัฒนาตัวเอง โดยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่านหนังสือเพื่อความบันเทิง โดยโทมัสพบว่าพวกเขามักจะอ่านหนังสือ 3 ชนิด คือ ชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จ, การช่วยตนเองหรือการพัฒนาส่วนบุคคล และประวัติศาสตร์
2.ออกกำลังกาย
66% ของคนกลุ่มนี้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกแทบทุกวัน วันละ 30 นาที โดยการออกกำลังกายแบบแอโรบิกนั้นทำได้หลายอย่าง เช่น วิ่งจ็อกกิง, เดินเร็ว หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกายไม่เพียงแต่จะดีต่อร่างกายแล้ว ยังดีต่อสมองด้วย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้สมองได้รับกลูโคส และทำให้เซลล์ประสาทเจริญเติบโต
3.แฮงเอาต์กับคนที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ
"คนเรามักจะประสบความสำเร็จเท่าๆ กับคนที่คบค้าสมาคมด้วย" โทมัสระบุ และว่า คนรวยมักจะมองหาคนที่มีอะไรเหมือนๆ กัน อย่างเช่น มีความกระตือรือร้น มองโลกในแง่ดี หรือมีภาพรวมออกมาดี
โดยการจะสร้างความสัมพันธ์ก็ทำได้โดยการไปอวยพรวันเกิด, โทรไปคุยด้วย หรือโทรไปหาเมื่อมีอีเวนต์หรือกิจกรรมทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการต่างๆ คล้ายๆ กับกลุ่มธุรกิจที่มักจะมีการพบปะกันเป็นประจำเพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องสนใจ สิ่งสำคัญคือหลีกเลี่ยงคนที่อาจดึงเราไปในทางลบ หรือผู้มีอิทธิพล
4.ไล่ตามเป้าหมายของตัวเอง
โทมัสพบว่า คนร่ำรวยมักจะหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมายของตัวเอง "การไล่ล่าความฝันและเป้าหมายของตัวเองจะสร้างความสุขในระยะยาวที่ยิ่งใหญ่" โทมัสระบุ
ขณะที่คนจำนวนมากอาจมัวแต่ไล่ล่าฝันของคนอื่น แต่คนรวยมักจะกำหนดเป้าหมายของตัวเอง และไล่ล่ามันอย่างไม่ลดละ"ความหลงใหลจะทำให้เราสนุกกับงาน เพราะความหลงใหลจะมอบพลัง, ความวิริยะและความเพียรที่จะเอาชนะความล้มเหลวหรือความผิดพลาด"
5.ตื่นเช้า
เกือบ 50% ของเศรษฐีสร้างตัวเองที่โทมัสศึกษามักจะตื่นก่อนอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนที่วันทำงานของเขาจะเริ่ม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการรับมือกับแต่ละวันที่อาจเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างการประชุมที่กินเวลายาวนาน, การจราจรติดหนึบ หรือการต้องไปรับลูกป่วยที่โรงเรียน เป็นต้น
"เหตุการณ์เหล่านั้นมักมีผลในทางจิตวิทยา จนในที่สุดอาจกลายเป็นความเชื่อว่าเราไม่สามารถควบคุมชีวิตของเราได้ ซึ่งการตื่นเช้าก็จะทำให้เราสามารถควบคุมชีวิตเราได้ดีขึ้น" โทมัสระบุ
6.มีแหล่งรายได้จากหลายทาง
เศรษฐีสร้างตัวเองมักไม่ได้มีรายได้จากทางเดียว โดย 65% ของคนเหล่านี้จะมีรายได้เข้ามาอย่างน้อย 3 ทาง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์, ลงทุนในตลาดหุ้น และลงทุนในธุรกิจอื่นๆ
7.เข้าหาและฟังความคิดเห็นจากเมนเทอร์
การเข้าหาเมนเทอร์หรือพี่เลี้ยงจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จเร็วขึ้น เพราะเมนเทอร์ที่ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าต้องมีประสบการณ์มามากกว่า และจะมีคำแนะนำดีๆ มาให้แน่นอน โดยเหล่าเมนเทอร์จะมีส่วนร่วมกับการประสบความเร็จด้วยการสอนว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ รวมถึงยังนำประสบการณ์หรือบทเรียนที่หาไม่ได้ในตำรามาสอนด้วย
8.เป็นคนคิดบวก
"การประสบความสำเร็จแบบระยะยาวนั้นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อภาพรวมออกมาเป็นบวก" โทมัสระบุ และว่า ในงานวิจัยของตน การคิดบวกเป็นสัญลักษณ์ของเศรษฐีสร้างตัวเอง แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงการต้องคิดบวกหรือคิดลบ
"ถ้าหากคุณลองหยุดฟังความคิดของตัวเอง เพื่อระมัดระวังมัน คุณก็จะพบว่าความคิดเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นลบ แต่คุณจะตระหนักถึงความคิดลบเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณบังคับให้ตัวเองระมัดระวังมัน ดังนั้น การรู้ตัวเองตลอดเวลาจึงเป็นกุญแจสำคัญ"
9.ไม่ตามกระแส
แน่นอนว่าคนเราต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จนหลายครั้งก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้ แต่รู้หรือไม่ว่าความล้มเหลวที่จะทำให้ตัวเองแยกออกจากสังคมได้ คือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จจะสร้างสังคมใหม่ของตัวเอง และดึงคนอื่นๆ เข้ามาในสังคมนี้แทนนั่นเอง
10.มีมารยาทดี
โทมัสระบุว่า เศรษฐีที่สร้างตัวเองได้จะทำความเข้าในกฎเกณฑ์หรือมารยาทบางอย่าง ที่หากคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณอาจจะต้องลองทำดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งจดหมายขอบคุณ, เข้าร่วมวันสำคัญของชีวิต อย่างเช่น วันเกิดหรือวันแต่งงาน, กินอาหารอย่างสุภาพ และแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ
11.ช่วยคนอื่นให้ประสบความสำเร็จ
การช่วยเหลือผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายได้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เศรษฐีสร้างตัวเองส่วนใหญ่ทำ โดยเฉพาะการช่วยเพื่อนในทีมหรือคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
แต่ใช่ว่าจะให้ความช่วยเหลือทุกคน แต่ควรโฟกัสไปที่คนที่กระตือรือร้น, มีเป้าหมาย และอยากจะประสบความสำเร็จจริงๆ
12.ใช้เวลาวันละ 15-30 นาทีไปกับการนั่งคิด
"เพราะการคิดเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ" ซึ่งโทมัสสังเกตว่าเศรษฐีมักจะใช้เวลาในการนั่งคิดอย่างน้อยวันละ 15 นาที ทุกวัน "พวกเขาใช้เวลาทุกวันในการคิดตั้งคำถามและทบทวนตัวเอง โดยหัวข้อที่คิดรวมไปถึงเรื่องการทำงาน, การเงิน, ครอบครัว, สุขภาพ, ปัญหาต่างๆ และความสัมพันธ์ทางธุรกิจ"
โดยคำถามที่พวกเขาตั้งในระหว่างคิดก็อย่างเช่น จะทำอย่างไรให้ทำเงินได้มากขึ้น? ทีความสุขกับงานที่ทำอยู่หรือเปล่า? ออกกำลังกายเพียงพอหรือเปล่า? หรือควรจะพัฒนาตนเองด้านไหนอีกบ้าง? เป็นต้น
13.ค้นหาฟีดแบ็กงานจากผู้อื่น
การฟังฟีดแบ็กจากผู้อื่นเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้เรียนรู้ว่าผลงานของเรานั้นใช้ได้หรือไม่ได้ และยังจะช่วยให้เราเข้าใจและยอมรับความคิดเห็นอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ได้เรียนรู้และเติบโต
14.เรียกร้องในสิ่งที่ต้องการ
ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ หรือกลัวว่าจะมีข้อผูกมัด ทำให้คุณไม่กล้าที่เรียกร้องในสิ่งที่คุณต้องการ ดังนั้น คุณต้องเอาชนะความกลัวให้ได้ และเรียกร้องต่อไปจนกว่าจะมีคนตอบตกลงกับคุณ
15.กล้าเสี่ยงในระดับหนึ่ง
โทมัสพบว่า เศรษฐีสร้างตัวเองมักจะสามารถเอาชนะความกลัวที่จะล้มเหลว และกล้าเสี่ยงในระดับหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าความเสี่ยงนั้นมีราคา แต่จากการศึกษาก็พบว่า 27% ที่เศรษฐีสร้างตัวเองที่ศึกษา มีประสบการณ์ล้มเหลว แต่ก็มาเริ่มใหม่อีกครั้ง
"ประเด็นสำคัญคือการกล้าที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง โดยใช้ความผิดพลาด ความล้มเหลวในครั้งก่อนมาเป็นบทเรียนสำหรับครั้งต่อไป"
ขอบคุณภาพและข้อมูล www.prachachat.net
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
