ผู้สมัครงาน
การก้าวจากนักบัญชีสู่ Chief Financial Officer (CFO) เป็นเส้นทางอาชีพที่ท้าทายและต้องอาศัยการเรียนรู้หลายด้าน เพราะ CFO ไม่ได้มีหน้าที่เพียงจัดทำงบการเงิน แต่ยังเกี่ยวข้องกับ การวางกลยุทธ์ทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง และสนับสนุนการตัดสินใจเชิงธุรกิจ
เพื่อให้เข้าใจชัดเจน เราสามารถแบ่งเส้นทางสู่ CFO ออกเป็น ขั้นตอน 5 ระดับ พร้อมคุณสมบัติและประสบการณ์สำคัญที่ต้องสั่งสม
1. ระดับเริ่มต้น: Staff / Junior Accountant
บันทึกบัญชีรายวัน ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทางการเงิน
จัดทำรายงานทางการเงินพื้นฐาน เช่น Balance Sheet, P&L และ Cash Flow
ประสานงานกับฝ่ายอื่น เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายจัดซื้อ เพื่อให้ข้อมูลทางบัญชีครบถ้วน
เรียนรู้กระบวนการทางธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างงบการเงินกับการดำเนินงานจริง
ความแม่นยำและรอบคอบ: การบันทึกตัวเลขต้องไม่มีข้อผิดพลาด
ความรู้บัญชีพื้นฐาน: GAAP, IFRS, ภาษีธุรกิจ
ทักษะการใช้ซอฟต์แวร์บัญชี: ERP, Excel, QuickBooks
การทำงานเป็นทีม: การสื่อสารและประสานงานกับหลายฝ่าย
ระยะนี้เป็นช่วงที่นักบัญชีต้อง สร้างความเข้าใจเชิงลึกด้านตัวเลขและกระบวนการทางธุรกิจ เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับขั้นต่อไป
ตรวจสอบและกระทบยอดบัญชีระดับสูงขึ้น เช่น บัญชีเจ้าหนี้ เจ้าหนี้โครงการ หรือบัญชีสินทรัพย์ถาวร
ช่วยจัดทำงบประมาณและรายงานทางการเงินสำหรับฝ่ายบริหาร
วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเบื้องต้น เช่น Variance Analysis, Cost Analysis
ให้คำแนะนำและช่วยแก้ไขปัญหาทางบัญชีในฝ่ายงานต่าง ๆ
ความเข้าใจเชิงธุรกิจ: เข้าใจว่าตัวเลขแต่ละรายการสะท้อนการดำเนินงานขององค์กรอย่างไร
การคิดวิเคราะห์: วิเคราะห์ตัวเลขและสร้างรายงานสนับสนุนการตัดสินใจ
ความสามารถบริหารงานย่อย: ดูแลเจ้าหน้าที่บัญชีระดับล่างและประสานงานโครงการ
เริ่มเรียนรู้ทักษะการสื่อสารกับผู้บริหาร: เพื่อรายงานผลการดำเนินงานและเสนอแนวทางปรับปรุง
ระยะนี้เป็นจุดที่นักบัญชีเริ่ม พัฒนาทักษะวิเคราะห์และการสื่อสารเชิงธุรกิจ ซึ่งสำคัญต่อการก้าวสู่ผู้บริหาร
รับผิดชอบทีมบัญชีและกระบวนการบัญชีทั้งหมด
จัดทำงบประมาณประจำปีและ Forecast รายไตรมาส
วิเคราะห์ผลการดำเนินงานทางการเงินเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์องค์กร
ประเมินความเสี่ยงทางการเงินและวางแนวทางควบคุมต้นทุน
ประสานงานกับฝ่ายบริหารระดับสูงและให้คำปรึกษาด้านการเงิน
การวางแผนเชิงกลยุทธ์: รู้จักวิเคราะห์งบการเงินในมุมของธุรกิจ
Leadership & Team Management: บริหารและพัฒนาทีมบัญชี
Communication & Influencing: สื่อสารกับ CEO, CFO, Board และฝ่ายอื่น ๆ
ทักษะด้านการเงินองค์กร (Corporate Finance): เช่น การวิเคราะห์ ROI, Cost-Benefit Analysis
ระยะนี้นักบัญชีต้อง ขยายมุมมองจากตัวเลขไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
วางกลยุทธ์ด้านการเงินและงบประมาณของบริษัท
ประเมินและจัดการความเสี่ยงทางการเงิน รวมถึงการลงทุนในโครงการใหญ่
สื่อสารผลการเงินและข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ต่อคณะกรรมการและผู้บริหาร
เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างฝ่ายบัญชี การเงิน และฝ่ายธุรกิจ
Strategic Thinking: สามารถมองภาพรวมธุรกิจและวางแผนการเงินรองรับการเติบโต
Decision Making & Risk Management: ประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจอย่างรอบคอบ
Stakeholder Management: สื่อสารและโน้มน้าวใจผู้บริหารและนักลงทุน
Technical Knowledge: เข้าใจ GAAP, IFRS, Tax Planning และ Corporate Finance อย่างลึกซึ้ง
ระยะนี้เป็นจุดที่นักบัญชีเริ่ม กลายเป็นผู้บริหารเชิงกลยุทธ์ และเตรียมตัวสำหรับตำแหน่ง CFO
กำหนดกลยุทธ์ด้านการเงินระยะยาวขององค์กร
ดูแลทุกกระบวนการบัญชี การเงิน การลงทุน และการจัดการความเสี่ยง
สนับสนุน CEO ในการตัดสินใจเชิงธุรกิจและวางแผนการเติบโต
ประสานงานกับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และธนาคาร
Visionary & Strategic Leader: มองภาพรวมธุรกิจทั้งองค์กรและวางแผนเชิงกลยุทธ์
Finance Expertise: มีความเชี่ยวชาญทั้งบัญชี การเงิน การลงทุน และ Risk Management
People Management: สามารถสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ
Decision-Making Under Uncertainty: ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์แม้มีความเสี่ยงสูง
ประสบการณ์การทำงานในหลายฝ่าย เช่น Accounting, Finance, Business Development
การสอบ CPA, CMA, CFA เป็นข้อได้เปรียบในการก้าวสู่ตำแหน่งนี้
ทักษะด้าน Data Analytics, ERP, BI Tools จะช่วยเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์และตัดสินใจ
ตำแหน่งงาน ที่กำลังเปิดรับสมัคร
สมัครงานสายงานการเงิน
บทความอื่นๆ
แนะนำการเขียน Resume สำหรับสายงานบัญชี
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved