ฝึกงานสายการตลาดยังไง ให้บริษัทรับเข้าทำงานทันทีหลังฝึกเสร็จ

  • 08 ธ.ค. 2568
  • 23
หางาน,สมัครงาน,งาน,ฝึกงานสายการตลาดยังไง ให้บริษัทรับเข้าทำงานทันทีหลังฝึกเสร็จ

 

เจาะลึกเทคนิคการฝึกงานสายการตลาดแบบที่ “ทำแล้วบริษัทอยากรับเข้าทำงานทันที” ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเริ่มฝึกงาน การวางเป้าหมายงานจริงระหว่างฝึก การโชว์ผลงานและทักษะที่ทีมมาร์เก็ตติ้งต้องการ ไปจนถึงแนวคิด วิธีทำงาน และพฤติกรรมที่ช่วยให้หัวหน้ารู้สึกว่า “เด็กฝึกคนนี้พร้อมเป็นพนักงานเต็มตัว”

 

1. ก่อนฝึกงาน — เตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวก่อนฝึกงานคือจุดเริ่มต้นสำคัญ เพราะถ้าคุณเริ่มต้นอย่างมีแผน คุณจะได้เปรียบตั้งแต่วันแรก

1.1 ศึกษาบริษัทให้ละเอียด

ก่อนเข้าฝึกงานคุณควรทำ Research บริษัทให้ครบทุกมิติ เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและแนวทางการทำการตลาด

  • เข้าไปศึกษาที่เว็บไซต์บริษัท อ่านเกี่ยวกับ Product/Service, Mission, Vision, Value ของบริษัท

  • ศึกษา Social Media ของบริษัท เช่น Facebook, Instagram, LinkedIn, YouTube

  • สังเกตโทนการสื่อสาร เช่น ใช้โทนทางการหรือไม่ทางการ เน้นภาพ หรือเน้นข้อความ

  • วิเคราะห์คู่แข่งของบริษัท เพื่อเข้าใจ Positioning ของบริษัทในตลาด

  • จด Key Insight เช่น จุดเด่น จุดด้อย โอกาส และความเสี่ยงของบริษัท
     

Tip: ใช้ Notion หรือ Google Docs สร้าง “Company Research Sheet” เพื่อจดข้อมูลสำคัญไว้ใช้ตลอดช่วงฝึกงาน

 


 

1.2 เตรียม Portfolio งานการตลาด

แม้คุณยังไม่เคยทำงานจริง Portfolio ก็สามารถสร้างได้จากการฝึกทำเอง

  • ทำตัวอย่างคอนเทนต์ Social Media เช่น โพสต์ Facebook/Instagram/LinkedIn อย่างน้อย 3 ชิ้น

  • ทำตัวอย่างแผนคอนเทนต์ (Content Calendar) สำหรับ 1 เดือน

  • ทำตัวอย่างการวิเคราะห์ตลาดหรือ Competitor Analysis แบบง่ายๆ

  • ถ้ารู้การใช้เครื่องมือ เช่น Google Ads หรือ Meta Ads ให้ทำตัวอย่างการตั้งแคมเปญ

  • เก็บทุกไฟล์ใน Google Drive หรือ Notion เพื่อเรียกใช้ได้สะดวก
     

 

1.3 ติดตั้งและฝึกใช้เครื่องมือการตลาด

ควรมีพื้นฐานการใช้เครื่องมือการตลาดก่อนเริ่มฝึกงาน เพื่อไม่เสียเวลาเรียนรู้ในช่วงฝึกงาน

  • Canva / Adobe Express — สำหรับทำคอนเทนต์และกราฟิก

  • Google Analytics — สำหรับติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์

  • Meta Ads Manager — สำหรับการตั้งค่าโฆษณา Facebook/Instagram

  • SEO Tools เช่น Ubersuggest, Ahrefs, หรือ Google Keyword Planner

  • Microsoft Excel / Google Sheets — สำหรับทำ Report และ Data Analysis

  • Trello / Notion / Asana — สำหรับจัดการงานและติดตาม Progress
     

Tip: ลงคอร์สสั้นฟรี เช่น Google Skillshop หรือ Canva Academy เพื่อให้เข้าใจการใช้เครื่องมือก่อนเริ่มฝึกงาน

 

 

2. ในช่วงฝึกงาน — ลงมือทำอย่างมีเป้าหมาย

ช่วงฝึกงานคือเวลาที่คุณต้อง “แสดงตัวตน” และ “สร้างผลงานให้เห็นชัด” เพื่อให้บริษัทเห็นว่าคุณคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

2.1 ทำความรู้จักกับทีมและระบบงานของบริษัท

  • ในวันแรก ควรทำความรู้จักกับทุกคนในทีม และเข้าใจโครงสร้างการทำงาน

  • ถามเกี่ยวกับเป้าหมายการตลาด เช่น KPI, Campaign ที่กำลังทำอยู่

  • จดบันทึกคำแนะนำหรือขั้นตอนการทำงานที่สำคัญ
     

Tip: พกสมุดบันทึกหรือใช้ Notion จดข้อมูลสำคัญ และทำเป็น Checklist ของงานที่ต้องเรียนรู้

 

2.2 สร้าง To-Do List สำหรับตัวเอง

การมีแผนงานจะช่วยให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพ

  • จัดลำดับความสำคัญของงาน เช่น งานด่วน งานที่สร้างผลงานได้เร็ว งานที่ใช้เวลานาน

  • แยกงานเป็น Daily Task และ Weekly Task เช่น

    • Daily Task: ตรวจสอบ Social Media Engagement, อัปเดต Content Calendar

    • Weekly Task: สรุป KPI ของแคมเปญ, วิเคราะห์ Competitor
       

Tip: ใช้ Trello หรือ Notion เพื่อจัดการ To-Do List และติดตามความก้าวหน้า

 

2.3 เสนอไอเดียใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

HR และหัวหน้าทีมชอบคนที่ “คิดก่อนทำ”

  • สัปดาห์ละอย่างน้อยเสนอไอเดียใหม่ เช่น โพสต์คอนเทนต์, เทคนิคการทำโฆษณา, การใช้ Influencer

  • ใช้ข้อมูล KPI ของบริษัทมาสนับสนุนไอเดีย

  • จัดทำตัวอย่างสั้น ๆ เช่น Mock-up หรือ Presentation ง่าย ๆ เพื่อให้เห็นภาพ
     

Tip: จดไอเดียไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจากการประชุม หรือจากการวิเคราะห์ข้อมูล

 

2.4 วัดผลผลงานของตัวเอง

การวัดผลจะทำให้คุณมีข้อมูลมาแสดงความสำเร็จ

  • กำหนด KPI เช่น Engagement Rate, CTR, Reach, Leads Generated

  • ใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics, Meta Ads Manager หรือ Social Media Insight

  • จัดทำ Weekly Report สรุปผล เช่น “โพสต์ A เพิ่ม Engagement 20%”
     

Tip: สร้าง Template Report แบบง่าย ๆ เพื่อใช้ทุกสัปดาห์

 

2.5 เรียนรู้จาก Feedback

  • ทุกครั้งที่ได้รับคำติชม ให้จดบันทึกและนำไปปรับปรุง

  • สอบถามเพิ่มเติมเมื่อไม่เข้าใจ เพื่อแสดงความตั้งใจในการเรียนรู้

  • ทำเป็น “Learning Log” บันทึกพัฒนาการตลอดช่วงฝึกงาน

 

3. การสร้างผลงานที่จับต้องได้ (Tangible Results)

การฝึกงานสายการตลาดให้ได้งานต่อหลังฝึก ไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จ แต่ต้องทำให้เห็นว่า “คุณสร้างคุณค่าได้จริง” ผ่านผลงานที่จับต้องได้และมีข้อมูลวัดผลรองรับ

 

3.1 เข้าใจเป้าหมายของบริษัทก่อนลงมือทำผลงาน

ก่อนจะสร้างผลงาน ต้องเข้าใจ KPI ของบริษัทหรือทีมการตลาด เช่น

  • Engagement Rate: การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย

  • CTR (Click-Through Rate): อัตราการคลิกโฆษณาหรือคอนเทนต์

  • Conversion Rate: จำนวนการกระทำที่ต้องการ เช่น การสมัคร, การซื้อ

  • Leads Generated: จำนวนลูกค้าเป้าหมายใหม่
     

สิ่งที่ต้องทำ:

  • จด KPI ของทีมใน Notion หรือ Google Docs

  • ถามหัวหน้าทีมหรือเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับ KPI และเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว
     

 

3.2 เลือกทำงานที่สร้างผลลัพธ์ได้เร็วและวัดผลได้

ในช่วงฝึกงาน เวลามีจำกัด ดังนั้นควรเลือกโฟกัสผลงานที่สร้างผลลัพธ์ได้เร็ว เช่น

  • ทำคอนเทนต์ Social Media ที่สามารถวัด Engagement ได้

  • ปรับปรุง SEO บนเว็บไซต์ที่มีข้อมูลวัดผลได้

  • ทำแคมเปญโฆษณา Facebook/Google Ads แล้ววัด CTR และ Conversion

  • ทำรายงานวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitor Analysis) พร้อมข้อเสนอแนะ
     

ตัวอย่าง:

ถ้าคุณอยู่ในทีม Social Media อาจเลือกทำ “คอนเทนต์ 5 โพสต์ที่คาดว่าจะเพิ่ม Engagement ภายในสัปดาห์” แล้ววัดผลหลังโพสต์จริง

 

3.3 เก็บข้อมูล KPI ทุกครั้งที่ทำงาน

การมีข้อมูล KPI จะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนในการยืนยันคุณค่า

  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Meta Ads Manager, Google Analytics, Facebook Insights

  • เก็บข้อมูลลงใน Spreadsheet เช่น Google Sheets

  • เก็บค่า Engagement, Reach, CTR, Leads หรือยอดขายที่เกิดขึ้นจากงานของคุณ
     

Tip: ทำ Dashboard สรุป KPI อย่างง่าย เช่น ตารางหรือกราฟใน Google Data Studio เพื่อให้ดูได้ง่ายและสวยงาม

 

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top