4 อย่างในออฟฟิศที่ทำลาย PRODUCTIVITY ของคุณไป

  • 24 Jan 2025
  • 4541
หางาน,สมัครงาน,งาน,4 อย่างในออฟฟิศที่ทำลาย PRODUCTIVITY ของคุณไป

ผมเชื่อว่าคนทำงานเก่งๆรวมถึงระดับผู้จัดการต่างๆ นั้นก็มักจะให้ความสำคัญกับ Productivity อยู่พอสมควร เนื่องจากเวลาทำงานของแต่ละออฟฟิศนั้นก็มีจำกัด จำเป็นต้องใช้ให้คุ้มค่าและได้งานงานที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม เรื่อง Productivity เป็นเรื่องที่พูดกันเยอะแต่ทำให้เกิดผลได้จริงไม่ง่ายนัก แถมเอาจริงๆ กิจกรรมทั่วๆไประหว่างการทำงานในออฟฟิศนี่เองที่ทำลาย Productivity โดยไม่รู้ตัว วันก่อนผมอ่านเจอบล็อกหนึ่งของ Entrepreneur ที่พูดถึงเรื่อง 4 กิจกรรมที่ทำลาย Productivity เราอย่างมาก แถมยังเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราเสียด้วยซ้ำ (บางอันผมว่าหลายๆคนก็รู้อยู่แล้วด้วย) เลยขอเอาตัว Infographic จากบล็อกนั้นมาขยายแล้วเล่าต่อในบริบทแบบไทยๆ แล้วกันนะครับ

1. การประชุม

ผมเชื่อว่าคนระดับหัวหน้างานมักบ่นกันบ่อยๆว่าอาชีพของพวกเขาคือประชุมตอนกลางวันแล้วทำงานตอนกลางคืน เพราะสิ่งที่พวกเขา (รวมถึงผมเอง) เจออยู่เสมอคือการโดนเรียกประชุมจากหน่วยงานโน้น ติดตามงานนี้ แจ้งความคืบหน้างานนั้น ชนิดที่ในทุกๆวันจะมีประชุมอย่างน้อย 1-2 ครั้ง แถมถ้าเอาหนักๆคือประชุมตั้งแต่เช้ายันเย็น กว่าจะได้นั่งโต๊ะทำงานแล้วเคลียร์งานก็ปาเข้าไปเกือบเลิกงานแล้ว แถมสิ่งที่เรามักจะเจอกันคือการเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมร่วมกันโดยหวังว่าการได้ทุกคนมาอยู่รวมกันได้ความคิดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ทั้งที่ในความเป็นจริงเรามักจะได้ผลตรงกันข้าม (คือไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน และหลายคนก็ไม่ได้รู้สึกร่วมอะไรไปกับการประชุม) จนสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเสียเวลา 1-2 ชั่วโมงไปโดยเปล่าประโยชน์ เอาจริงๆแล้ว การประชุมนั้นจะให้มีประสิทธิภาพก็ทำได้ แต่ส่วนมากที่เราไม่ได้ทำกันคือการใช้แนวทางในการประชุมให้มีประสิทธิภาพ คนจำนวนมากคิดว่าการประชุมคือการเอาคนมารวมๆกันแล้วก็อัพเดทหรือชี้แจงข้อมูล แต่ถ้าเราดูบริษัทหรือทีมที่ประสบความสำเร็จนั้น พวกเขาจะใช้การประชุมให้ประสิทธิภาพและสั้นที่สุด แทนที่จะลากยาวและใช้เวลาอยู่กับการอ่าน Slide ไปเรื่อยๆ(ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามักจะเจอกัน) ถ้าใครอยากประชุมให้ประสิทธิภาพ ผมแนะนำให้ลองอ่านหนังสือ Six Thinking Hats แล้วไปปรับใช้กันดูนะครับ

2. เล่นอินเตอร์เนต

เราคงต้องยอมรับความจริงกันว่าอินเตอร์เนตนี้คือสุดยอดของสิ่งกวนใจและทำให้เราหลุดโฟกัสการทำงานได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามี Social Network อย่าง Facebook หรือ Twitter ที่ทำให้เราเกิดพฤติกรรมอยากอัพเดทกันแทบทุกนาทีที่สมองเราหยุดพัก เช่นระหว่างที่กำลังพิมพ์งานอยู่แล้วรู้สึกตันๆ เหนื่อยๆ เราก็จะรีบพักแล้วสลับหน้าจอไปเล่น Facebook อย่างรวดเร็ว นี่ยังไม่นับการเปิดเว็บไซต์อื่นๆ ม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน (ยอมรับกันเหอะ ว่าพวกเราล้วนทำกัน ผมเองก็ยังเป็นเลย) การมีอินเตอร์เนตทำให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เราเคยเอาไว้ทำงานกลายเป็นช่องทางในการติดต่อกับโลกภายนอกได้ด้วยแค่ปลายนิ้ว ยิ่งกับคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์บ่อยๆ แล้วยิ่งรู้สึกง่ายกับการสลับหน้าจอไปมาเพื่อหาข้อมูลต่างๆหรือตามติดเรื่องราวบนโลกออนไลน์ที่นับวันก็จะยิ่งมีเรื่องฮอตฮิตเกิดขึ้นกันทุกๆวัน ลองคิดกันดูเล่นๆ ก็ได้ว่าในแต่ละวัน เราเสียเวลากับการเปิดเว็บที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน หรือเช็ค Facebook กันนับเป็นกี่ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งเรามี Smartphone ที่ต่อให้บริษัทบล็อกเนตแล้วก็ตาม เราก็ยังเล่น LINE ผ่านมือถือได้อยู่ดี พอเป็นเช่นนี้แล้ว จึงไม่แปลกหรอกครับที่นับวัน การทำงานให้เกิด Productivity ของเราจะลดลงเรื่อยๆ

3. รับ-ส่ง Email

แม้ว่า Email จะช่วยให้เราทำงานสะดวกมากขึ้นในการส่งข้อมูลและงานระหว่างคนในทีมจนไปถึงกับลูกค้า แต่ทุกวันนี้เราก็เริ่มชินที่จะใช้ Email กันแบบผิดๆ ถูกๆบ้างก็ส่ง Email กันชนิดประหนึ่ง Chat Message หรือบางครั้งก็ส่ง Email แทนที่จะเลือกเดินไปพูดคุยกันให้เคลียร์ จนสุดท้ายกลายเป็นว่าพนักงานออฟฟิศทุกวันนี้ต้องใช้เวลาจำนวนมากอยู่กับการเคลียร์ Email ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นจนทำให้งานไม่เดินเสียที ปัญหาที่เกิดขึ้นใช่ว่าเพิ่งเกิดแต่อย่างใด แต่ผมเชื่อว่าหลายๆองค์กรรู้เรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็หาทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้ยากอยู่พอสมควร ทั้งนี้เพราะการส่ง Email เริ่มกลายเป็นความมักง่ายของพนักงานในยุคดิจิทัลไปเรียบร้อยประเภทว่าอะไรๆ ก็ส่ง Email คุยกัน จนทุกวันนี้ หลายๆคนได้รับ Email กันอย่างต่ำวันละหลายสิบฉบับ บางคนไปร่วมหลักร้อย ซึ่งลองคำนวนกันเล่นๆ ว่าหนึ่งฉบับต้องใช้เวลาในการอ่านและเคลียร์อยู่ร่วมๆ 1-2 นาที แสดงว่าวันหนึ่งคุณใช้เวลาเกือบ 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยในการเช็คอีเมล์ (นี่ยังไม่นับว่าเมล์แต่ละฉบับจะต้องมีการตอบ หรือเคลียร์งานต่ออีกนะ) ผมเคยเขียนบล็อกเรื่องการใช้ Email แบบผิดๆ และนำไปสู่การทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพไว้ ถ้าใครอยากทำงานให้ดีขึ้นก็ลองอ่านเป็นแนวทางได้ครับ

4. การเดินทาง

ผมเชื่อว่าข้อนี้คนกรุงเทพน่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับคนที่ต้องออกไปประชุมกับลูกค้า ต้องเดินทางไปตรวจโน่นดูนี่อยู่บ่อยๆภายใต้สภาวะการจราจรสุดจะบรรยายของกรุงเทพ (ที่ขึ้นชื่อว่าติดอันดับการจราจอดยอดแย่ของโลก) ซึ่งการติดอยู่บนถนนทำให้คุณเสียเวลาสุดจะมีค่าในการทำงานต่างๆ มากมายโดยส่วนตัวผมเอง ผมมักจะเลี่ยงการขับรถในวันธรรมดาและเลือกใช้บริการ BTS / MRT ที่อย่างน้อยก็ช่วยย่นระยะเวลาได้ระดับหนึ่ง แถมเราสามารถทำงานไปด้วยได้ (ถ้าได้นั่ง) หรือบางครั้งการใช้บริการ Taxi ก็ดีกว่าเพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถนั่งเปิดคอมทำงานอยู่ด้านหลังได้แทนที่จะต้องนั่งจับพวงมาลัยแล้วทำอะไรไม่ค่อยจะได้ (ซึ่งส่วนตัวผมแล้วเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบื่อทีเดียว) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ หลายๆคนไม่ได้อยู่ในจุดที่มีทางเลือกแบบนี้ได้ ฉะนั้นแล้วทางที่ดีคือพยายามคำนวนเรื่องการใช้เวลาบนท้องถนนกันดีๆทำอย่างไรให้มันคุ้มค่าที่สุด รวมไปถึงบางครั้งอาจจะหาวิธีลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นดูนะครับ

Credit : http://www.nuttaputch.com/4-things-that-destroy-productivity

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top